15 นัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีก หงส์แดง-แมนฯ ซิตี้?

มาถึงตอนนี้แล้ว เราก็รู้ได้เลยว่าจะมีเพียง 2 ทีมเท่านั้นที่มีโอกาสเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษในครั้งนี้ นั่นก็คือ ลิเวอร์พูล จ่าฝูงในตอนนี้ กับ รองจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ผลงานโดยรวมที่ผ่านมาของทั้ง 2 ในตอนนี้ถือว่า “เรือใบสีฟ้า” มีฟอร์มการเล่นทั้งรุกและรับได้ค่อนข้างดีกว่า “หงส์แดง” ไม่ว่าจะเป็นจำนวนประตูที่ทำได้ จำนวนการผ่านบอล จำนวนการผ่านบอลแล้วเข้าเป้า จำนวนครั้งการผ่านบอลต่อเกมส์ ค่าเฉลี่ยการทำประตู ค่าเฉลี่ยการครองบอล เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตู จำนวนครั้งการยิง

อย่างไรก็ตามแมนฯ ซิตี้ก็ยังด้อยกว่า ลิเวอร์พูล ในบางส่วนของเกมส์รับ อย่างจำนวนประตูที่เสีย จำนวนครั้งการเข้าสกัด จำนวนครั้งการเคลียร์บอลออกจากพื้นที่อันตราย และ จำนวนใบเหลือง

ใน 15 เกมส์ที่เหลืออยู่ ลิเวอร์พูลก็มีความได้เปรียบอยู่ดี เนื่องจากระยะเวลาการพัก ได้เล่นในสนามของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ และ ทีมที่แข่งด้วยก็เป็นทีมในท็อป 6 เพียงแค่ 3 เกมส์ – เชลซี, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาได้เล่นที่แอนฟิลด์ 8 เกมส์ จาก 15 เกมส์ที่เหลืออยู่ นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล มีแค่ 2 ลีกที่เหลือให้ลุ้นเป็นแชมป์ – พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เรียกได้ว่าโชคช่างเข้าข้าง “หงส์แดง” ในพรีเมียร์ลีกในครั้งนี้จริงๆ ถ้า “หงส์แดง” ได้แชมป์ในฤดูการนี้ ก็จะเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี

ส่วนในส่วนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังต้องเจอทีมระดับท็อป 6 ถึง 4 ทีมด้วยกัน – อาร์เซนอล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส แต่ยังก็ยังดีที่ 3 ใน 4 เกมส์นี้ เป็นเกมส์เหย้า ในวันที่ 3 และ 10 กุมภาพันธ์นี้ แมนฯ ซิตี้ เตรียมพบกับ อาร์เซนอล และ เชลซี ถ้าพวกเขาสามารถชนะ 2 แมชท์นี้ ก็มีโอกาสลุ้นแชมป์ต่อไป แต่ถ้าแพ้ขึ้นมา ลิเวอร์พูลก็การันตีเป็นแชมป์

สถานะการณ์กดดันสำหรับทั้งสองฝ่าย เรียกได้ว่าก้าวพลาดไม่ได้เลยทีเดียว เพราะตอนนี้ในตารางพรีเมสียร์ลีกทั้งสองทีม มีคะแนนห่างกันแค่ 4 คะแนน ถ้าหาก ลิเวอร์พูลก้าวพลาดเป็นแพ้ ก็จะทำให้คะแนนห่างกันเพียง 1 คะแนน แถมเกมส์ล่าสุดที่เจอกัน (3 มกราคม) “เรือใบสีฟ้า” ก็ทุบ “หงส์แดง” คาบ้านไป 2-1 แกนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูลก็ออกมาแสดงความเห็นส่วนตัว และการคาดการณ์แชมป์ของเขา ในพรีเมียร์ลีก 2018-19 นี้ เขากล่าวว่า ลิเวอร์พูล กับแมนฯ ซิตี้ สูสีกันมาก เขาคาดว่า แมนฯ ซิตี้ จะพ่ายให้กับคู่ริร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ยู ซึ่งนำทีมโดยกุนซือคนใหม่ไฉไลกว่าเดิม “โอเล่ กุนนาร์ โซลซา” และ ท้ายที่สุดลิเวอร์พูลก็จะได้รับชัยชนะไป โดยมีคะแนนมากกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียง 1 คะแนน