เล็กพริกขี้หนู เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์
เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ “เมสซี่ เจ” เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของเจนั้นเริ่มจาก การเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ 1 ขวบ โดยมีคุณพ่อ คุณก้องภพ สรงกระสินธ์ เป็นคนสอน และเข้าทีมเล่นอย่างจริงจังตอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร หลังจบชั้นประถม เจเดินสายเล่นให้กับ ซีแอล ไฮสปีด – ทีมฟุตบอลชื่อดังในจังหวัดนครปฐม เจเข้าวงการฟุตบอลอย่างจริงจัง
เขาได้รับโอกาสเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังครั้งแรกจาก บีอีซี เทโรศาสน ในฤดูกาล 2554 หลังจากที่ได้การปฏิเสธจากที่อื่นมา เนื่องจากขนาดตัวของเขา แต่เขาก็ไม่ทำให้ บีอีซี เทโรศาสน ผิดหวัง นำทีมชุดเยาวชน U-19 คว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 และ สามารถเอาชนะ บุรีรัมย์ พีอีเอ และได้รับรางวัล Man of the Match ในนัดนั้นไป เท่านั้นยังไม่พอ ในนัดนั้นทำให้คุณสมชาย ชวยบุญชุม ชวนเขาไปเล่นทีมชาติเยาวชน จนกระทั่ง ฤดูกาล 2556 เจถูกเรียกตัวไปเล่นให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 เจได้ลงเป็นตัวจริง คว้าได้อันดับ 3 ในฤดูกาล 2559 เมืองทอง ยูไนเต็ดทำสัญญายืมตัวพร้อมซื้อขาด เจ ชนาธิป และทำผลงานยอดเยี่ยมจนเข้าตาสโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร จาก เจลีก ญี่ปุ่น เจ เข้าไปเล่นให้คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในครึ่งหลังของปี 2017 ในช่วงแรกเขาทำผลงานได้ไม่ดีนัก เขาลงไป 16 เกมส์ ทำประตูไม่ได้เลย กับ 1 แอสซิสต์ ปัญหาอาจจะอยู่ที่ว่าเขาได้เล่นตำแหน่งปีกซ้าย ซึ่งไม่ใช้ตำแหน่งที่เขาโดดเด่น และ เพื่อนร่วมทีมก็ไม่ค่อยส่งบอลให้เขา เจถนัดในการสร้างสรรค์เกมส์มากกว่า ดังนั้นตำแหน่งที่เหมาะกับเจคือ มิดฟิลด์ ถึงทีมจะไม่ตกชั้นแต่ผลงานออกมาก็ไม่ดีดี และแน่นอนว่าต้องมีเสียงวิพากย์วิจารณ์ออกมาว่า “ซัปโปโรก็แค่เอาเขาไปเป็นมาสคอตเท่านั้น” เนื่องจากตั้งแต่เจย้ายไปเล่นให้ซัปโปโร ที่ฮอกไกโด ก็มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ลงโปรแกรมการแข่งของเจลงในแผนการเที่ยว จากนั้นเจก็เลยหมั่นซ้อมเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ง่ายเลย เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงเดียวกันกับช่วงที่ เจ เลิกลากับแฟนสาวของเขา นั่นก็คือ เมย์ พิชญนาฏ ซึ่งสาเหตุการเลิกกันก็มาจากความสัมพันธ์ระหว่างเมย์กับครอบครัวเจ ด้วยความที่เมย์อายุ 36 แล้วในตอนนั้น ก็เป็นธรรมดาของผู้หญิงที่มีความพร้อมและอยากมีครอบครัว แต่เมื่อไปคุยกับพ่อและแม่ของเจ พวกท่านกลับพูดว่าไม่มีฤกษ์ต้องรอไปอีก 3 ปี และแม่ของเจยังพูดอีกว่าเมย์กับเจเกิดปีไก่เหมือนกันอยู่กันไม่ได้หรอก ตีกันตาย ซึ่งทำให้เมย์ต้องถอยออกมา และตัวเจเองก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไรทั้งนั้น ทีนี้คนที่วิจารณ์เขาไม่ใช่แค่คนที่ติดตามฟุตบอลแล้ว มันกลายเป็นการวิจารณ์จากวงกว้าง บ้างก็ว่า “ลูกแหง่” มิหนำซ้ำ โค้ช ซูเฮ โยโมดะ ซึ่งเป็นคนให้โอกาสเจในซีซั่นแรกกลายเป็นผู้ช่วยแทน แล้ว มิไฮโล เปโตรวิชมาคุมทีมแทน ซึ่งก็เป็นระบบคุมแบบใหม่ซึ่งเจยังไม่คุ้นเคย ทำให้เขาโดนด่าทุกวัน แถมยังโดนลดบทบาดไปเป็นตัวสำรอง ทำให้เขาพยายามมากขึ้น ซึ่งเขาก็พัฒนาตัวเองจนโค้ชเปโตรวิชเห็นและเริ่มใส่เจเข้าไปในแผนการของเขา แต่ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมคือปีกซ้าย แต่วิธีการเล่นเปลี่ยนไปและเขาก็มั่นใจในการเล่นมากขึ้น จนพาทีมติดอันดับ 4 ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดของประวัติศาสตร์สโมสร สถิติของเจในซีซั่นนี้คือ 8 ประตู และ 2 แอสซิสต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกโหวดให้เป็น MVP ของสโมสร และต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีชื่อของเขาในการประกาศรางวัลออลสตาร์ด้วย ซึ่งเป็นคนอาเซียนคนแรกที่ได้ในเจลีก
ในที่สุดเจก็ทำลายคำสบประมาท ว่าเขามันก็แค่มาสคอต ตอนนี้ทุกคนเห็นแล้วว่า เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ คือ “นักเตะที่มีคุณภาพ”