ฟุตบอลอังกฤษ มีการแข่งอะไรบ้าง

หลายคนอาจจะสงสัยว่าฟุตบอลอังกฤษทำไมมันมีหลายลีก หลายคัพ มากๆ เราคงเคยได้ยินกันมาว่า แมนฯยู จะมีการแข่งขัน 4 นัด ในพรีเมียร์ลีก ลีกคัพ แอฟเอคัพ และ แชมเปี้ยนส์ลีก และ หลายครั้งเราก็จะได้ยินว่าเลื่อนชั้นไปสู่ลีกนี้ หรือตกชั้นไปสู่ลีกนั้น ซึ่งเราจะมาดูกันว่าในแต่ละการแข่งขันมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร

พรีเมียร์ลีก

มาเริ่มกับลีกสูงสุดในการแข่งขันทั้งปวง เรียกได้ว่าเป็นจุดยอดของพีระมิด ซึ่งทีมฟุตบอลที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เชลซี อาร์เซนอล ฯลฯ ก็จะเป็นทีมในพรีเมียร์ลีกนี้แหละ แต่ก่อนพรีเมียร์ลีกถูกเรียกว่า ดิวิชั่นหนึ่ง (First Division) และมีการเปลี่ยนชื่อในช่วงต้นปี 90 เนื่องจากรูเพิร์ต เมอร์ด็อก เจ้าของเครือข่ายสกายทีวี เจรจาให้ทีมที่ลงในดิวิชั่นหนึ่งถอนตัวออกมาจัดตั้ง “พรีเมียร์ลีก” ซึ่งมีทั้งหมด 20 ทีมในพรีเมียร์ลีกและ ถือว่าเป็นทีมอันดับต้นๆ ของทีมสัญชาติอังกฤษทั้งหมด

การตัดสินผู้ชนะ

ทุกทีมจะต้องแข่งขันกับทีมอื่นๆ ที่เหลือในลีกจนครบ ทั้งเหย้าและเยือน ทีมจะได้ 3 แต้มถ้าหากชนะ และ 1 แต้มถ้าเสมอ ในตอนจบของฤดูกาล ทีมไหนที่มีคะแนนมากที่สุดก็จะชนะไป และ ถ้าหากมีมากกว่า 1 ทีมที่มีคะแนนมากที่สุด ก็จะตัดสินด้วยผลต่างได้เสีย

การเลื่อนชั้น และ การตกชั้น

ในอังกฤษ 3 อันดับสุดท้ายของในการแข่งขันจะตกชั้นในฤดูกาลต่อไป และ 3 อันดับบนสุดจะได้เลื่อนชั้น ซึ่งบางครั้งเราก็เดาไม่ได้เลยว่าทีมไหนจะเลื่อนชั้นและตกชั้น เพราะมันเกิดขึ้นเร็วมาก อาจเกิดขึ้นในเพียงแค่ 2 นาที

ฟุตบอลลีก อังกฤษ

เป็น 3 การแข่งขันที่อยู่ต่ำกว่าพรีเมียร์ลีก ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นระบบเก่าก่อนที่อันดับสูงสุดจะแตกตัวออกมาเป็น พรีเมียร์ลีก อันดับสูงสุดของฟุตบอลลีกเรียกว่า “แชมเปี้ยนส์ชิป” ซึ่งมี 24 ทีมด้วยกัน
อันดับที่รองลงมาจากแชมเปี้ยนชิปคือ ลีกวัน (League One) ซึ่งก็มี 24 ทีมเช่นกัน ทีมที่อยู่ในลีกนี้มี ฟลีทวู๊ด ทาวน์ บริสตอล โรเวอร์ส อ๊อกฟอร์ด ยูไนเต็ด ซึ่งเราก็เริ่มจะไมส่คุ้นชื่อแล้ว

อันดับที่รองลงมาจากลีกวัน คือ ลีกทู (League Two) ซึ่งก็มี 24 ทีมเช่นกัน

ซึ่งในฟุตบอลลีกทั้ง 3 ชั้น (แชมเปี้ยนชิป-ลีกวัน-ลีกทู) สองทีมที่อยู่ในอันดับสูงสุดจะได้เลื่อนชั้น ในขณะที่ 4 อันดับต่อมาต้องไปแข่งในรอบเพลย์ออฟ ซึ่งจะมีเพียง 1 ทีมเท่านั้นจะได้เลื่อนขั้นไปด้วย ซึ่งสนามแข่งคือที่ เวมบลีย์ สเตเดียม

เนชั่นลีก

หลังจากเราได้ครอบคลุม 92 ทีมของทีมอังกฤษไปแล้วในพรีเมียร์ลีก และ ฟุตบอลลีกอังกฤษ การแข่งขัน 2 อันดับรองลงมาคือ เนชั่น ลีก และ เนชั่น ลีก เหนือ/ใต้ ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้สับสนกับยูฟ่า เนชั่น ลีก ซึ่งบอกเลยว่ามันเป็นคนละอันกัน

เนชั่นลีก ประกอบไปด้วย 24 ทีม (ถือว่าเป็น เลเวล 5) เป็นการแข่งขันระดับชาติแบบเดี่ยวที่อยู่ท้ายสุด ส่วนในเลเวล 6 จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มนั่น กลุ่มแรกจะครอบคลุมอังกฤษตอนเหนือ เรียกว่า เนชั่น ลีก เหนือ (Nation league North) กับกลุ่มที่ 2 จะครอบคลุมตอนใต้ เรียกว่า เนชั่น ลีก ใต้ (Nation League South)

เลเวล 7 และ รองลงมา

รองลงมาจาก เนชั่น ลีก เหนือ/ใต้ เลเวล 7 จะแบ่งเป็น 3 ดิวิชั่นด้วนกัน คือ Northern Premier League Premier Division, Southern Football League Premier Division และ Isthmian League Premier Division จากนั้น ฟุตบอลอังกฤษก็ซับซ้อนยิ่งขึ้น ในเลเวล 8 มีทั้งหมด 6 ลีกด้วยกัน ซึ่งแข่งแล้วมีการเลื่อนชั้นและตกชั้นไปสู่เลเวล 7

คัพต่างๆ

“คัพ” เป็นคำที่ชาวอังกฤษใช้เรียกการแข่งขัน และเป็นการแข่งขันแบบตลอดปี ที่รู้กันอยู่แล้ว คือ ทุกประเทศต้องมีการแข่งขันในประเทศอย่างน้อยหนึ่งการแข่งขัน ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทยมี ”ไทยลีก” ในอังกฤษ คัพ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ “เอฟเอ คัพ” ซึ่ง FA ย่อมาจาก Football Association สเน่ห์ของเอฟเอ คัพ คือ เป็นคัพที่เปิดกว้างให้ทีมจากทั้ง 9 เลเวล เข้าร่วมได้ ทำให้มีทีมที่เข้าร่วมถึง 736 ทีม (ฤดูกาล 2018-2019) อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เอฟเอคัพ มีความคลาสสิคคือถ้าผลแข่งขันออกมาเสมอ จะมีการให้เล่นอีกครั้ง (replay) ที่สนามอื่น

เอฟเอ คัพ จะเริ่มในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะเริ่มจากเกมส์อุ่นเครื่อง หลังจากนั้นก็จะเป็นรอบคัดเลือก ซึ่งการแข่งขันจริงๆ จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ลีกวันและลีกทู แต่อย่าลืมว่ามันยังได้ได้ถูกจัดอันดับดังนั้นการแข่งแข่งต่างๆ อาจจะมั่วๆ หน่อย

รอบที่ 3 จะเกิดขึ้นเมื่อพรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนชิป เข้ามา ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ในช่วงสุดสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม

พูดถึงคัพที่ใหญ่ที่สุดไปแล้ว มาดูอันดับรองลงมาอย่าง “ลีกคัพ” หรือ อีเอฟแอล คัพ หรือ ถ้าเรียกตามสปอนเซอร์ในปีนี้ก็คือคาราบาวคัพ ตามหลักแล้วก็จะคล้ายๆ กับเอฟเอคัพ เพียงแต่ว่าจะเป็นทีมในท็อป 4 เท่านั้นที่จะมาแข่ง กล่าวคือ พรีเมียร์ลีก แชมเปี้ยนส์ชิป ลีกวัน และ ลีกทู รวมเป็น 92 ทีม ซึ่งทีมที่ชนะเลิศในแต่ฤดูกาลจะเข้าแข่งขันในรายการยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบคัดเลือกที่ 3